คอลลาเจนรอยสิว ส่องวิธีลดรอยแผล ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ

หากพูดถึงเรื่องสิว เชื่อได้เลยว่าเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลอย่างแน่นอนจึงเลือกหันมาใช้งาน คอลลาเจนรอยสิว กันมากยิ่งขึ้น เพราะคอลลาเจนเหล่านี้นอกจากจะมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าของเราแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวเรียบเนียนได้มากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้คอลลาเจนยังมาพร้อมกับคุณประโยชน์ต่าง ๆ อีกมากมาย แต่ทั้งนี้คอลลาเจนในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ทุกคนจะเลือกใช้งานได้ทั้งแบบฉีด แบบทา และแบบรับประทาน โดยที่เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม

คอลลาเจนรอยสิว ช่วยเพิ่มความใสให้แก่ผิวหน้าได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับคอลลาเจนรอยสิวจะเป็นตัวช่วยลดสิว และรอยสิวได้เป็นอย่างดี เพราะคอลลาเจนเหล่านี้จะถือเป็นโปรตีนอีกหนึ่งชนิด ที่โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะสามารถผลิตขึ้นมาเองได้ แต่จะผลิตได้เยอะในขณะที่เรายังมีอายุน้อย หากเรามีอายุมากขึ้นหรือเริ่มก้าวเข้าสู่เลข 3 การผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกายเราจะลดน้อยลง แต่อัตราการสลายคอลลาเจนในร่างกายยังคงเท่าเดิม ดังนั้นหากเราไม่เสริมคอลลาเจนเข้าไป จะทำให้ผิวหนังของเราหย่อนคล้อย แห้งกร้าน ไม่เรียบเนียน และเป็นสิวได้ง่าย การเสริมด้วยแบรนด์คอลลาเจนเน้นผิวสวยเข้าไปในร่างกายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

โดยปกติแล้วคอลลาเจนที่ร่างกายของเราได้รับมาจากการรับประทาน มักจะเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลาทะเล พืช หรือผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไปย่อยสลาย จนแตกตัวและก่อตัวขึ้นมาใหม่ กลายเป็นเส้นใยโปรตีนหรือคอลลาเจนนั่นเอง ซึ่งคอลลาเจนในส่วนนี้จะมีหน้าที่ในการเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ทั้งยังมีส่วนช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น คงความกระชับเอาไว้ดีที่สุด ให้ความเต่งตึงได้แม้อายุเยอะ แถมยังมีส่วนช่วยปกป้องความแข็งแรงให้แก่กระดูกอ่อนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าทุกคนไม่ควรพลาดการเสริมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายเลยทีเดียว

เลือกใช้คอลลาเจนไตรเปปไทด์ ช่วยลดรอยสิวได้ดีที่สุด

คอลลาเจนไตรเปปไทด์ หรือที่เรียกว่าไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน จะเป็นคอลลาเจนลดสิว pantip ที่ผ่านกระบวนการย่อยมาบางส่วนแล้ว ซึ่งจะเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้คอลลาเจนที่มีความยาวสั้นลง ทั้งนี้คอลลาเจนไตรเปปไทด์ยังเป็นคอลลาเจนที่ผ่านการย่อยด้วยกรด จนได้เป็นคอลลาเจนที่มีอนุภาคเล็กที่สุดนั่นเอง แต่ยังคงแสดงคุณสมบัติของคอลลาเจนเอาไว้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อคอลลาเจนมีอนุภาคที่เล็กลง จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ได้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยคอลลาเจนประเภทนี้จะสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไป 3-4 เท่าเลยทีเดียว

คอลลาเจนไตรเปปไทด์จะเป็นคอลลาเจนที่สกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึก จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับโครงสร้างคอลลาเจนในผิวของมนุษย์มากที่สุด และนอกจากนี้ร่างกายยังสามารถดูดซึมคอลลาเจนจากกระเพาะอาหารได้ดีกว่าผิวหนังของคน ทำให้การรับประทานคอลลาเจนสามารถเติมคอลลาเจนให้แก่ผิวหนังได้ดีที่สุด การกินคอลลาเจนลดสิวจึงประสิทธิภาพช่วยเติมเต็มริ้วรอยจากสิว ช่วยลดความเหี่ยวย่นของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถดูดซึมเพื่อนำไปใช้ในส่วนประกอบของการสร้างผม ผิวหนัง เล็บ และกระดูกได้อีกด้วย เพื่อช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม และป้องกันอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เชื่อมต่ออวัยวะต่าง ๆ ให้อยู่ด้วยกัน และมีความยืดหยุ่นได้ดีที่สุด

คอลลาเจนรอยสิว ช่วยเรื่องรอยและหลุมสิวได้อย่างไร

คอลลาเจนจะถือเป็นอีกหนึ่งอาหารเสริม ที่หลาย ๆ คนจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน และคอลลาเจนผิวยังมีส่วนช่วยลดปัญหาเรื่องสิว และรอยสิวได้อีกด้วย เพราะรอยแผลเป็นจากสิวนั้นจะไม่หายไปเองทั้งหมด รอยดำหรือรอยสิวบางรอยอาจจะต้องใช้เวลาในการหายเองหลายเดือนด้วยกัน

แต่บางครั้งอาจจะไม่หายจนกว่าจะได้รับการรักษา แต่รอยสิวต่าง ๆ จะสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว หากเรามีการกระตุ้นคอลลาเจนเข้าไปในร่างกาย เพราะรอยแผลเป็นจากสิว จะเป็นรอยได้ถาวรเพราะเกิดจากความเสียหายต่อคอลลาเจนภายในผิวของเรา แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวในตอนแรก จะมีความสามารถในการทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังของเรา ทำให้โครงสร้างของเซลล์ชั้นล่างของผิวหนังอ่อนแอลงได้อย่างชัดเจน

และคอลลาเจนจะเป็นโปรตีนที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในร่างกาย และมีบทบาทที่สำคัญต่อการสมานแผล ยิ่งหากใครที่เป็นสิวซีสต์ซึ่งจะเป็นสิวที่เป็นรูปแบบรุนแรงมากที่สุด เพราะเกิดจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นชั้นในสุดของผิวหนัง โดยสิวประเภทนี้จะเข้าไปทำลายผิวและเซลล์ไขมันรอยบริเวณที่ติดเชื้อ ส่งผลให้เกิดแผลเป็นจากสิวได้ลึกมากที่สุด แต่เมื่อสิวของเราหายดีแล้ว จะใช้เวลาในการสร้างแผลเป็นประมาณ 2-3 สัปดาห์ด้วยกัน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเสริมคอลลาเจนเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้เกิดหลอดเลือดใหม่เคลื่อนที่เข้ามาในบริเวณแผล เพื่อให้มีสารอาหารที่จำเป็นในการรักษาผิวไม่ให้เกิดรอยสิวนั่นเอง

ไขข้อสงสัย รับประทานคอลลาเจนอย่างไรให้เห็นผลไวมากที่สุด

เชื่อว่าในปัจจุบันหลายคนเริ่มหันมารับประทานคอลลาเจนกันมากยิ่งขึ้น แม้ว่าคอลลาเจนจะมีทั้งรูปแบบการทา หรือการฉีด แต่คนส่วนใหญ่จะเลือกรับประทานคอลลาเจนกันมากที่สุด เพราะการเสริมคอลลาเจนด้วยการรับประทาน จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และยังหาซื้อได้ง่าย มีราคาไม่แพงอีกด้วย

โดยการทานคอลลาเจนจะช่วยตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ทั้งนี้คุณสมบัติของคอลลาเจนนอกจากจะช่วยให้ผิวพรรณมีความสวยงาม เรียบเนียน เต่งตึงไม่หย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัยแล้ว หากใครที่เป็นสิวหรือมีรอยแผลเป็นจากการเป็นสิว คอลลาเจนเหล่านี้จะเข้าไปช่วยลดริ้วรอยแผลเป็นได้ดีที่สุด แต่การรับประทานคอลลาเจน ลดสิวได้ไหม ทานอย่างไรให้เห็นผลได้รวดเร็วมากที่สุด ไปดูกันเลย

• รับประทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง: ทุกคนรู้หรือไม่ว่า การเลือกรับประทานคอลลาเจนที่ดีที่สุด คือ การเลือกรับประทานในช่วงท้องว่าง หรือหลังจากที่เรารับประทานอาหารไปแล้ว 3-4 ชั่วโมง เนื่องจากการที่เรารับประทานคอลลาเจนในช่วงท้องว่างนั้น ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และคอลลาเจนจะไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลายก่อนร่างกายดูดซึมนั่นเอง ทั้งนี้การรับประทานคอลลาเจนที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็วอีกหนึ่งวิธี คือ การรับประทานคอลลาเจนก่อนนอนนั่นเอง ซึ่งจะต้องบอกเลยว่าการรับประทานคอลลาเจนในช่วงก่อนนอนนั้น จะเห็นผลได้อย่างดีที่สุด เพราะในช่วงที่เรานอนหลับ ระบบภายในร่างกายของเราจะนำคอลลาเจนเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และยังทำให้ร่างกายของเราเอาสารสกัดจากคอลลาเจนมาใช้งานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
• รับประทานคอลลาเจนควบคู่กับวิตามินซี: แม้ว่าการรับประทานคอลลาเจนจะช่วยส่งผลดีต่อร่างกายได้มากที่สุด แต่การรับประทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซี จะถือเป็นดับเบิ้ลประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสารในคอลลาเจนจะต้องการสารละลาย เพื่อช่วยในการดูดซึมเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ดังนั้นการรับประทานวิตามินซี หรืออาหารเสริมอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการรับประทานคอลลาเจน จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว และร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด ทั้งนี้เมื่อเรารับประทานคอลลาเจนและวิตามินซีไปแล้ว ควรดื่มน้ำตามในปริมาณมาก เนื่องจากการดื่มน้ำในปริมาณมากจะเป็นตัวช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ๆ หากเราดื่มน้ำน้อยจะทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน เหี่ยวย่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และไม่ชุ่มชื้นนั่นเอง
• หลีกเลี่ยงบางพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน: พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่าง ก็เป็นส่วนที่ทำให้ผิวของเราเสื่อมโทรมได้ง่าย แถมยังทำให้สิวขึ้นได้อีกด้วย ดังนั้นหากใครต้องการรับประทานคอลลาเจนให้ได้ผลมากที่สุด และรักษาสิวและริ้วรอยจากสิวได้เป็นอย่างดี ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การโดนแสงแดดแรง ๆ โดยตรง ไม่ทาครีมกันแดด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮล์ รวมทั้งการสูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเราจะรับประทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปมากเพียงใด ก็ไม่ช่วยให้เห็นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ควรกินคอลลาเจนนานเท่าไหร่ จึงจะเห็นผลดีที่สุด

ถือเป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ว่าคอลลาเจนกินตอนไหนดี ควรรับประทานกี่วัน และรับประทานนานแค่ไหนจึงจะเห็นผล ซึ่งก่อนอื่นจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า คอลลาเจนในรูปแบบรับประทาน จะเป็นอาหารเสริมที่สามารถทานได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่จะไม่มีการสะสมในร่างกาย เพราะร่างกายของเราจะสามารถสลายคอลลาเจนได้ในทุก ๆ วัน

การรับประทานคอลลาเจนจะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างออก ขึ้นอยู่กับปัจจัยในแต่ละบุคคล ดังนั้นไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่า จะต้องรับประทานคอลลาเจนนานเท่าไหร่จึงจะเห็นผล แต่จะต้องรับประทานคอลลาเจนในทุก ๆ วัน ยิ่งมีอายุมากขึ้นด้วยแล้ว ร่างกายของเราจะไม่สามารถผลิตคอลลาเจนได้เท่ากับจำนวนที่สลายออกไปนั่นเอง

ทั้งนี้การรับประทานคอลลาเจน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เคยกล่าวเอาไว้ว่า การรับประทานคอลลาเจนที่เหมาะสม ควรรับประทาน 2,500-3,000 มิลลิกรัมต่อวันก็เพียงพอ เพื่อช่วยในการเสริมผิวพรรณในสวยงาม และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด

แต่หากถามว่าต้องรับประทานคอลลาเจนนานเท่าไหร่จึงจะเห็นผล หากต้องการรับประทานคอลลาเจนเพื่อบำรุงผม ผิวพรรณ และเล็บ ควรรับประทานต่อเนื่องกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ขึ้นไปในปริมาณ 2,000-10,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากต้องการรับประทานคอลลาเจนเพื่อบำรุงกระดูกและข้อต่อ ควรรับประทานคอลลาเจนต่อเนื่องอย่างน้อย 12 เดือน ในปริมาณ 5,000-10,000 มิลลิกรัมต่อวัน

ต้องยอมรับเลยว่าคอลลาเจนลดรอยสิว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่เป็นสิวง่าย เพราะเมื่อเรารับประทานคอลลาเจนเข้าไปแล้ว นอกจากจะมีส่วนช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิวพรรณของเราแล้ว ยังช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากสิว และริ้วรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ยิ่งหากเรามีอายุมากยิ่งขึ้น การรับประทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปในร่างกาย จะช่วยชะลอความอ่อนวัยได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่นตามวัย และเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อได้ดีที่สุด

อ้างอิง:

คอลลาเจน คืออะไร? เลือกให้ถูกกับที่ร่างกายต้องการ. https://www.interpharma.co.th/articles/healthy-and-aging/type-of-collagen/