คอลลาเจนวิตามินซี กินร่วมกันแล้วเวิร์คจริง หรือแค่การตลาด ?

เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากดูแก่ก่อนวัยอันควรอย่างแน่นอน ส่งผลให้ในปัจจุบันการรับประทาน คอลลาเจนวิตามินซี ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังไม่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มสาว ๆ เพียงอย่างเดียว แต่หนุ่ม ๆ หลายคนก็เริ่มหันมาสนใจตัวเอง และเริ่มรับประทานคอลลาเจนวิตามินซีกันมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าของเราจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม และยังมีผิวหนังที่เริ่มเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด

ยิ่งใครที่ก้าวเข้าสู่เลข 4 ต้น ๆ จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในด้านร่างกายอย่างชัดเจน ดังนั้นหากใครต้องการให้ตนเองมีผิวหนังที่เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น การรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจนยี่ห้อที่ดีควบคู่กับวิตามินซี ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าสนใจมากที่สุด

คอลลาเจนวิตามินซี คืออะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

หากพูดถึงคอลลาเจนวิตามินซี หรือคอลลาเจนเพียงอย่างเดียว เชื่อว่าทุกคนจะต้องคุ้นชินกันเป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากคอลลาเจนจะเป็นโปรตีนี่ร่างกายของเราทุกคนสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ตามธรรมชาติ แต่ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตอนที่เรามีอายุน้อย ๆ

แต่เมื่อเรามีอายุก้าวเข้าสู่เลข 3 เมื่อไหร่ การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลง และจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อเราก้าวเข้าสู่เลข 4 เพราะคอลลาเจนเหล่านี้จะมีหน้าที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย โดยเฉพาะกระดูก หลอดเลือด ข้อกระดูก กระดูกอ่อน เส้นเอ็น รวมทั้งผิวหนังของเราด้วยเช่นกัน

และปกติแล้วคอลลาเจนจะมีอยู่ในอาหารจำพวกปลาทะเล เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ถั่วหลากสี พืชผักใบเขียว เห็ดชนิดต่าง ๆ ผักสีเขียว ผลไม้สีแดงส้ม เอ็นหมู เอ็นวัว และกระดูกอ่อน ดังนั้นทุกคนสามารถกระตุ้นคอลลาเจนบนใบหน้าได้ ด้วยการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม หรือหากใครต้องการเสริมคอลลาเจนเพิ่มเติมจากการรับประทานอาหารเหล่านี้ จะสามารถเลือกรับประทานคอลลาเจนที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้เช่นเดียวกัน รับรองได้เลยว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ผิวหนังดูเปล่งปลั่งได้มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน

วิตามินซีคืออะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านใดบ้าง

เชื่อว่าเมื่อใครหลาย ๆ คนนึกถึง Collagen คงไม่พูดถึงวิตามินซีก็คงจะไม่ได้ เพราะคอลลาเจน วิตามินซี pantip ถือเป็นของคู่กัน เนื่องจากวิตามินซีจะเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการไม่แพ้กัน เพื่อนำไปสนับสนุนกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การสร้างคอลลาเจนใต้ผิว การใช้คอลลาเจนลดรอยสิว การดูดซึมธาตุเหล็ก การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งกระดูกและฟันด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ วิตามินซียังเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ รวมทั้งอาการเจ็บป่วยของเราได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และยังสามารถป้องกันปัญหาผิวหนังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยได้ดีที่สุด

ทั้งนี้วิตามินซีจะสามารถละลายน้ำได้เป็นอย่างดี และจะละลายออกไปพร้อมปัสสาวะ ดังนั้นวิตามินซีร่างกายจะไม่สามารถเก็บสะสมเอาไว้ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรับประทานวิตามินซีในทุก ๆ วัน เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอ และยังจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีวิตามินซีอยู่จำนวนมาก ได้แก่ บล๊อคโคลี่ มะนาว ส้ม สตอเบอร์รี่ กะหล่ำปลี มะเขือเทศ เป็นต้น เพราะอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนมีวิตามินซีอยู่เป็นจำนวนมาก

คอลลาเจนวิตามินซี มีการทำงานที่แตกต่างกันอย่างไรบนผิวหนัง

หลาย ๆ คนจะต้องสงสัยกันอย่างแน่นอนว่า คอลลาเจน วิตามินซี ช่วยเรื่องอะไร และมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกันอย่างไรบนผิวหนังของเรา ซึ่งวิตามินซีจะเป็น co-factor ที่จะเป็นตัวช่วยในการสร้างเอมไซม์ที่ถูกใช้เวลาสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ด้วยเอมไซม์ 2 ตัวที่ชื่อว่า Prolyl Hydroxylase และ Lysyl Hydroxylase ในส่วนของคอลลาเจนนั้น จะเป็นเส้นใยโปรตีนที่อยู่ใต้ผิวของเรา โดยร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้เอง แต่หากเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น อัตราการผลิตคอลลาเจนของร่างกายจะลดน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เราจำเป็นต้องรับประทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปในร่างกาย

และคอลลาเจนที่เราได้รับจากภายนอกนั้น ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของอาหารเสริมหรือสกินแคร์ ซึ่งมีหลากหลายคนเข้าใจว่าคอลลาเจนเหล่านี้จะเข้าไปเติมคอลลาเจนที่หายไปใต้ชั้นผิว แต่ความเป็นจริงแล้ว คอลลาเจนที่มาในรูปแบบของอาหารเสริมหรือสกินแคร์ จะเป็นคอลลาเจนที่มีอนุภาคขนาดใหญ่ และไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย

ดังนั้นหลาย ๆ แบรนด์จึงเลือกประเภทของคอลลาเจนให้มีขนาดเล็กลง หรือที่เรียกกันว่าไฮโดรไลท์คอลลาเจน เพราะคอลลาเจนประเภทนี้จะมีขนาดเล็กมากที่สุด สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังไม่สามารถแทรกซึมเข้าชั้นใต้ผิวหนังได้อยู่ดี เพียงแต่จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง หรือซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรออย่างเดียวเท่านั้น

ในปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์อาหารเสริมคอลลาเจน เริ่มผลิตคอลลาเจนผสมวิตามินซีมากยิ่งขึ้น เพราะสารอาหารทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีการทำงานที่ช่วยเสริมฤทธิ์กันได้เป็นอย่างดี คอลลาเจนจะมีความจำเป็นต่อระบบภายในร่างกายและผิวหนังมากที่สุด แต่จะไม่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นวิตามินซีจะเข้ามาช่วยให้คอลลาเจนละลายตัวได้เป็นอย่างดี และนำพาคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าเดิม ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมทั้งคอลลาเจนและวิตามินซีได้ดีที่สุด

เลือกรับประทาน คอลลาเจนวิตามินซี ในช่วงไหนดีที่สุด

ในปัจจุบันการรับประทานคอลลาเจนและวิตามินซี ถือเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะต้องการให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากคอลลาเจนวิตามินซีอย่างครบถ้วน แต่วิธีกินคอลลาเจนให้เห็นผลหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าสามารถกินวิตามินซีกับคอลลาเจน พร้อมกันได้ไหม หรือควรรับประทานในช่วงไหนจะดีที่สุด เนื่องจากคอลลาเจนวิตามินเหล่านี้ จะเข้ามาช่วยเสริมสร้างระบบการทำงานภายในร่างกาย เพราะฉะนั้นไปดูกันเลยว่า เราควรรับประทานคอลลาเจนวิตามินในช่วงไหน และรับประทานอย่างไร ให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด

• รับประทานได้ทุกช่วงเวลาตามต้องการ: ในเรื่องของช่วงเวลาการรับประทานคอลลาเจนวิตามิน เชื่อว่าจะต้องเป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยของหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ ว่าเราควรรับประทานคอลลาเจนวิตามินในช่วงเวลาไหนดีที่สุด แม้ว่าอาหารเสริมเหล่านี้จะสามารถรับประทานได้ทุกช่วงเวลา แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่าคอลลาเจนวิตามินสามารถรับประทานได้ทุกช่วงเวลา แต่การรับประทานให้เห็นผลดี และเห็นผลได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด ควรเลือกรับประทานในช่วงที่ท้องว่าง เพราะช่วงที่เราท้องว่างร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนวิตามินได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อร่างกายดูดซึมได้ดี ก็สามารถนำไปใช้งานได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นสรุปได้ว่าคอลลาเจนวิตามินสามารถรับประทานได้ทุกช่วงเวลา แต่รับประทานในช่วงท้องว่างจะเห็นผลได้รวดเร็วมากที่สุด
• รับประทานคอลลาเจนวิตามินซี และดื่มน้ำตามมาก ๆ: โดยปกติแล้วร่างกายของเราต้องการน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่มากเพียงพอ และเมื่อเรารับประทานคอลลาเจนวิตามินซีเข้าไป เราควรดื่มน้ำตามในปริมาณมากเช่นเดียวกัน เพราะสารสกัดคอลลาเจนนั้น จะต้องการสารละลายเพื่อช่วยในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีที่สุด ทั้งนี้หากเรายิ่งดื่มน้ำเข้าไปในปริมาณมาก นอกจากจะทำให้ร่างกายของเรามีประสิทธิภาพในการขับของเสียออกมาได้ดีกว่าปกติแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีกว่าการดื่มน้ำแบบปกติ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงเสริมให้คอลลาเจนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลยทีเดียว ทั้งนี้การรับประทานคอลลาเจนวิตามินซี หรือการรับประทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซี จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในกระบวนการดูดซึมคอลลาเจนได้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งยังดับเบิ้ลผิวหน้าและผิวกายให้สวยเปล่งปลั่งกระจ่างใดได้ดีที่สุด
• เพิ่มคอลลาเจนให้ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มคอลลาเจนได้เช่นเดียวกัน เพราะอาหารบางชนิดก็มีส่วนผสมของคอลลาเจนอยู่ด้วย และถึงแม้ว่าอาหารเหล่านั้นจะมีส่วนประกอบของคอลลาเจน แต่ก็ไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนอย่างแน่นอน ซึ่งการรับประทานอาหารจะเป็นเพียงวิธีการรับประทานคอลลาเจนเสริมในระหว่างวันเท่านั้น สำหรับอาหารจำพวกที่มีคอลลาเจนอยู่ จะเป็นปลาแซลมอน ปลาทูน่า ที่จะมีทั้งโปรตีน และยังเป็นแหล่งผลิตคอลลาเจนชั้นดี อโวคาโดที่มีส่วนช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ แถมยังเป็นแหล่งคอลลาเจนหน้าใสที่รักษาริ้วรอยได้ดีที่สุด มะกอกดำและมะกอกเขียว ที่จะมีส่วนช่วยรักษาผิวหนังที่หย่อนคล้อย แครอทมีส่วนช่วยผลิตคอลลาเจนให้กับร่างกาย และถั่วต่าง ๆ ที่จะเต็มไปด้วยสังกะสี กรดไฮยาลูรอนิก ที่ถือเป็นแหล่งคอลลาเจนผิวใส ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และมะเขือเทศที่สามารถป้องกันรังสียูวีจากแสงแดด และมีประสิทธิภาพในการสังเคราะห์คอลลาเจนได้ดีที่สุด
• รับประทานคอลลาเจนในปริมาณที่พอดี ส่งผลดีต่อร่างกายได้มากกว่าเดิม: แม้ว่าคอลลาเจนจะเป็นสิ่งที่ร่างกายของเราต้องการมากที่สุด แต่การรับประทานคอลลาเจนมากเกินไป ก็ไม่ส่งผลดีต่อร่างกายเช่นเดียวกัน ดังนั้นการรับประทานคอลลาเจนที่ดี ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม โดยปกติแล้วร่างกายต้องการคอลลาเจนอยู่ที่ประมาณ 5,000-7,000 มิลลิกรัมเท่านั้น หากรับประทานมากกว่านี้สามารถทำได้แต่ไม่ควรเกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากการรับประทานคอลลาเจนเกินกว่านี้ จะส่งผลเสียและอาจจะก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกายได้นั่นเอง เพราะคอลลาเจนจะไม่สามารถสลายได้หมด และเข้าไปตกค้างในร่างกาย เพราะฉะนั้นอีกหนึ่งวิธีการรับประทานคอลลาเจนที่ถูกต้อง คือ การเลือกรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน และรับประทานอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานคอลลาเจนได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

การรับประทานคอลลาเจน นอกจากจะต้องเลือกคอลลาเจนที่เหมาะสมกับตัวเอง และเป็นคอลลาเจนที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานที่ดีที่สุดแล้ว การรับประทานคอลลาเจนที่ดีที่สุดจะต้องรับประทานคอลลาเจนอย่างถูกวิธี เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับประทานได้มากขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญควรรับประทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซี เพื่อเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้งานได้ง่าย และเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

อ้างอิง:

–7 วิธีกิน “คอลลาเจน” ให้ได้ผล ผิวขาวใส ฉบับสาววัยเลข 3. https://www.watsons.co.th/th/blog/th/skincare-tips-th/7-วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผ