เช็ดเครื่องสําอาง ให้ถูกวิธี สิวไม่บุก แถมหน้าไม่เหี่ยวด้วย!

เช็ดเครื่องสําอาง ให้ถูกวิธี สิวไม่บุก แถมหน้าไม่เหี่ยวด้วย!

ส่วนใหญ่แล้ว เรื่องสิว มาจากไหน ? นอกจากฮอร์โมนของร่างกายแล้ว สาเหตุหลัก ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องการล้างเครื่องสำอางไม่เกลี้ยง มีสารตกค้างอยู่ตามรูขุมขนบนใบหน้า หรือใช้เครื่องสำอางหมดอายุ ซึ่งเป็นการสะสมให้เกิดสิวบุก หรือ สิวเห่อ โดยเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคุณผู้หญิงทุกคน เมื่อสิวบุก ปัญหาที่ตามมาจากเรื่องนี้ก็คือ หมดความมั่นใจ รู้สึกหงุดหงิด ผิวหน้าที่รู้สึกเหี่ยว หรือ แก่ก่อนวัยอันควร นี่แหละคือเรื่องที่ทำร้ายผิวหน้าอย่างร้ายแรง พร้อมกับสภาพจิตใจของคุณผู้หญิงเป็นอย่างมาก สำหรับวันนี้พวกเราจะมาแนะนำขั้นตอนการ เช็ดเครื่องสําอาง ที่ถูกวิธี พร้อมเหตุผลที่น่าสนใจ รวมไปถึงการเลือกคลีนซิ่ง เป็นอีกหนึ่งไอเทมการบำรุงผิวหน้า เกลี้ยงทั้งเครื่องสำอาง ให้สิวไม่บุก พร้อมกับไม่ทำร้ายผิวหน้าอย่างรุนแรงด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้เลยกับบทความนี้ 

5 ขั้นตอนเช็ดเครื่องสำอางแบบถูกวิธี

การเช็ดเครื่องสำอางแบบถูกวิธี มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้การล้างเครื่องสำอาง รวมไปถึงใบหน้าของคุณผู้หญิง หรือ คุณผู้ชาย ที่เผชิญเรื่องราวมาทั้งวันเช็ดได้แบบสะอาด ปลอดภัย อีกทั้งยังเคลียร์ได้ทุกจุด ซึ่งวันนี้พวกเราก็ได้รวบรวม 5 ขั้นตอนเช็ดเครื่องสำอางแบบถูกวิธี มาฝากกันซึ่งมีดังต่อไปนี้ 

ขั้นตอนที่ 1 เช็ดรอบดวงตา

เริ่มต้นกันด้วยวิธีแรก กับ การเทรีมูฟเวอร์ ลงบนสำลีแบบชุ่ม นำมาแปะบริเวณเปลือกตาก่อนสักครู่ จากนั้นก็ค่อย ๆ เช็ดออกแบบเบามือ ต้องระวังเป็นอย่างมากเพราะว่าในส่วนนี้ เป็นส่วนที่บอบบาง อาจจะเข้าตาได้ ดังนั้นขอแนะนำให้ใช้ Eye Make up Remover โดยเฉพาะ โดยเมื่อใช้รีมูฟเวอร์แบบธรรมดา อาจจะทำให้เกิดอาการแสบ เหตุผลที่เริ่มจาดวงตา เพราะเป็นจุดที่บอบบางมากที่สุด 

ขั้นตอนที่ 2 เช็ดริมฝีปาก

เมื่อเสร็จจาการเช็ดบริเวณรอบดวงตาแล้ว จุดต่อมาคือการเช็ดเครื่องสำอางบริเวณ ริมฝีปาก เพราะในจุดนี้เรายังสามารถใช้ตัวของ Eye Make up Remover แทนกันได้ เพราะว่าเป็นจุดที่บอบบางไม่แพ้ดวงตาเลยทีเดียว นำเทลงบนสำลีรีดขอบแปะเอาไว้ริมฝีปากสักครู่หนึ่ง พร้อมกับค่อย ๆ เช็ดออก ส่วนที่เป็นประเด็นสำคัญเลย ต่อให้รีบมากน้อยแค่ไหน ห้ามถูแรง ไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดผลไม่ดีกับตัวของริมฝีปากเราได้ นั่นก็คือ มันจะมีสีดำแทนนั่นเอง 

ขั้นตอนที่ 3 เช็ดบนใบหน้า

ในจุดนี้คุณผู้หญิงจะต้องเลือกใช้คลีนซิ่ง ที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง จัดได้ว่าเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยจะใช้คลีนซิ่ง เช็ดตามแนวของรูขุมขน ด้วยเหตุผลที่ไม่ให้รูขุมขนกว้าง ตามด้วยโซนหน้าผาก ให้เช็ดจากตรงกึ่งกลาง ผ่านไปทางด้านข้าง ส่วนบริเวณจมูก ให้เช็ดจากดั้งลงมาปลายจมูก ส่วนบริเวณแก้ม ให้เช็ดขึ้นจากส่วนคาง ขึ้นไปถึงขมับ สุดท้ายในส่วนของคาง ก็ให้เช็ดจากใต้ริมฝีปาก ไปถึงตรงปลายคาง ในจุดนี้ขอให้เน้นคำว่า เช็ดแบบเบามือ เพราะจะได้ไม่เป็นริ้วรอยบนใบหน้า 

ขั้นตอนที่ 4 เช็ดทั่วใบหน้า 

หลังจากที่เช็ดส่วนตา,ริมฝีปาก รวมทั้ง บนใบหน้าไปแล้ว คราวนี้ให้เช็ดบริเวณใบหน้าทั้งหมดอีกรอบหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญก็คือ ให้เช็ดรอบนี้เป็นเหมือนการทำความสะอาดซ้ำให้แน่ใจว่าเราได้เช็ดไปทั่วทั้งหน้าแล้ว ดังนั้นใครที่กลัวคลีนซิ่งหมด หรือ ไม่อยากซ้ำ ไม่ค่อยคุ้มหรอกกับสิวบุก หรือ สิวอุดตันบนใบหน้า 

ขั้นตอนสุดท้าย ใช้โฟมล้างหน้า 

ขั้นตอนสุดท้ายนี้ไม่ได้มีอะไรมาก เป็นการทำความสะอาดแบบ การใช้โฟมล้างหน้า ล้างสิ่งสกปรกที่อาจจะยังหลงเหลือ พร้อมทั้งตัวของ คราบรีมูฟเวอร์ บนใบหน้า นี่คือขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้หน้าตาของคุณสะอาดหมดจด 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้ง 5 ขั้นตอนเช็ดเครื่องสำอาง บอกได้เลยว่าหัวใจสำคัญของการดูแลรักษา ในระหว่างที่กำลังทำการเช็ด ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนไหน ควรที่จะเบามือมากที่สุด เพราะว่าผิวหน้าไม่เหมือนกับผิวส่วนอื่น ๆ จะเกิดริ้วรอย หรือ การระคายเคืองได้อย่างง่าย ซึ่งจะทำให้เกิดสิว แน่นอนว่าคำนี้ไม่มีใครชอบ 

ในส่วนของโฟมล้างหน้า ก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวหน้าของเราด้วย เพื่อสุขภาพผิวหน้าที่ดี ที่สำคัญ คลีนซิ่ง ที่จะเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด เพราะต้องเลือกให้เหมาะกับผิวหน้า เนื่องจากมีโอกาสที่เราจะเลือกมาผิด เพราะรูปแบบของผิวหน้าของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน

เลือกคลีนซิ่งยังไง ให้เหมาะกับผิวหน้า

ใช่แล้วว่าเรื่องนี้ก็นำมาสู่คำถามที่ว่า เลือกคลีนซิ่งยังไง ให้เหมาะกับผิวหน้า เพราะการเช็ดเครื่องสำอางให้ถูกวิธี แบบสิวไม่บุก ก็ขึ้นอยู่กับ การเลือกคลีนซิ่งด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าผิวหน้าของเรานั้นไม่ได้เหมือนกันทุกคน รวมไปถึงการระคายเคืองที่มีบางคนก็อาจจะแพ้ ดังนั้นแล้วก่อนการเลือกใช้ ก็ต้องศึกษาคุณสมบัติและฉลากเครื่องสําอางกันสักเล็กน้อย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะพวกเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกคลีนซิ่งใช้งาน เอาไว้ที่นี่แล้ว จะมีแบบไหนบ้างที่เหมาะกับผิวหน้าของเรา ติดตามอ่านกันต่อได้เลย 

Cleansing Oil

เริ่มจากคลีนซิ่งที่ดีมากสำหรับคนที่ชอบความอ่อนโยนต่อผิวอย่าง Cleansing Oil เพราะตัวนี้จะมีน้ำมันที่เลือกใช้ให้บำรุงผิวได้ด้วย โดยในจุดที่เราแต่งหน้าแบบหนัก ๆ การเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก็สามารถทำได้ง่ายเช่นเดียวกัน ส่วนคนผิวแห้งก็ควรใช้ตัวนี้ด้วย ส่วนตัวนี้ไม่แนะนำเลยสำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบอยู่ และ เกิดสิวอุดตันง่าย บอกเลยต้องเลี่ยง

Cleansing Milk 

สำหรับคลีนซิ่งน้ำนมนี้ จะสามารถใช้ได้กับผู้ที่มีผิวหน้าแบบธรรมดา รวมทั้งคนผิวหน้าแห้งด้วย วิธีใช้ก็ง่าย เพียงแค่ชุบสำลี แล้วค่อย ๆ เช็ดออกอย่างเบา ๆ แต่จะต้องล้างออกอีกทีด้วย ถึงแม้ว่าการทำความสะอาดจะไม่ได้ดีเท่าของ คลีนซิ่งออยล์ แต่ในส่วนความเบา ก็เหมาะสำหรับคนที่แต่งหน้าไม่หนักมาก 

Cleansing Gel 

ตัวคลีนซิ่งเจลนั้น เป็นตัวที่มีความเบาบาง สะอาด ใส ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลในการทำความสะอาดตัวผิวหน้าที่ค่อนข้างนานซะหน่อย แต่เหมาะกับการทำความสะอาดผิวหน้ที่ม่ได้ลงเมคอัพหนัก ๆ ซึ่งข้อดีของตัวเจล จะทำให้ผิวไม่แห้งตึง อ่อนโยน สำหรับคนผิวแพ้ง่าย บอกได้เลยว่า คลีนซิ่งเจลจะเหมาะมากที่สุด 

Cleansing Water 

คลีนซิ่งวอเตอร์ จะใช้ง่ายมากที่สุด เหมาะกับทุกสภาพของผิวหน้า ยิ่งไปกว่านั้นใครที่ชื่นชอบคลีนซิ่งแบบไม่มีน้ำมัน แต่ทว่าข้อสำคัญคือต้องเลือกตัวที่คุณภาพดีสักหน่อย คุณสมบัติเช็ดเครื่องสำอางออกง่าย แต่เหมาะสำหรับคนแต่งหน้าเบา ๆ เพราะไม่เหมาะกับการทำความสะอาดเช็ดเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติกันน้ำ 

Cleansing Balm

สำหรับคลีนซิ่งบาล์ม จะมีคุณสมบัติที่นอกเหนือจากเช็ดเครื่องสำอาดได้สะอาดอย่างดีแล้ว ก็ยังจะช่วยบำรุงผิวหน้าได้ดีอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องสำอางตัวที่กันน้ำ คลีนซิ่งประเภทนี้ก็เช็ดออกได้สบาย ความโดดเด่นเด่นยังไม่หมดเพราะคลีนซิ่งนี้ไม่กระทบผิวหน้าสักเท่าไหร่ด้วย 

Cleansing Wipe 

คลีนซิ่งชนิดนี้จะดูแตกต่างไปซักหน่อย เพราะว่าเป็นทิชชู่ที่เอาไว้ทำความสะอาด ถึงแม้ว่าจะเช็ดออกไม่หมดหรอก แต่สำหรับคนแต่งหน้าเบา ๆ ก็เช็ดออกได้ แต่จะสะดวกที่สามารถพกพาไปได้ ข้อเสียอยู่ที่จะเปลืองกว่าแบบอื่น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดีเลยทีเดียว 

Cleansing Cream 

สำหรับประเทศไทยเรานั้น จะไม่ค่อยนิยม คลีนซิ่งแบบครีมเท่าไหร่นัก เพราะว่าไม่เหมาะสำหรับคนผิวมัน แต่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าแบบธรรมดา กับ ผิวแห้ง ถึงแม้ว่าจะล้างเครื่องสำอางได้ไม่ดีเท่ากับ คลีนซิ่งออยล์ แต่ก็จะโดดเด่นไปทาง ค่อนข้างอ่อนโยน ไม่เหนอะหนะ 

Make Up Remover

เป็นคลีนซิ่งที่ใช้ทำความสะอาดบริเวณที่ลงเมคอัพหนัก เช่น การเขียนตา หรือ บริเวณปาก ที่จะมีความโดดเด่นในการทำความสะอาดในส่วนนี้ได้ดี มากกว่าแบบอื่น ที่สำคัญ ไม่ทำให้แสบบริเวณที่บอบบางของใบหน้าด้วย จุดเด่นของคลีนซิ่งนี้คือ จะสามารถแยกชั้นระหว่างน้ำ กับ น้ำมัน ได้เป็นอย่างดี

เรื่องสุดท้ายขอฝากบทสรุปเกี่ยวกับ การเลือกคลีนซิ่งให้เหมาะกับผิวหน้าของคุณ ซึ่งจะมีคำแนะนำที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 

• ผิวหน้ามัน ให้เลือกใช้คลีนซิ่งแบบน้ำ หรือ แบบ บาล์ม ก็ได้ โดยจะให้เลือกแบบ Oill Free ด้วยก็จะดีมาก ซึ่งถ้ามีปัญหาเรื่องผิวมัน หรือ ปัญหาเรื่องสิวด้วย
• ผิวหน้าแบบธรรมดา สำหรับใครที่เป็นผิวแบบธรรมดา จะขึ้นอยู่กับการแต่งหน้าที่มากน้อยแค่ไหน ผิวแบบนี้ถือว่าดี เพราะว่าจะสามารถใช้คลีนซิ่งได้ทุกแบบ แต่อย่าลืมว่าการทำความสะอาดจะต้องเบามือ และ ถนอมใบหน้า

• ผิวหน้าแห้ง สำหรับคนผิวหน้าแห้ง จะต้องเลือกใช้คลีนซิ่งแบบครีม หรือ แบบ ออย ก็จะชวยทำความสะอาดผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะไม่ทำให้ผิวแห้งไปมากกว่านี้ด้วย

• ผิวหน้าผสม สำหรับผิวหน้าแบบนี้ควรเลือกใช้คลีนซิ่งเจล เพราะจะทำความสะอาดได้อย่างดี โดยจะเน้นการทำความสะอาดไปในบริเวณที่รอบแรกทำไปแล้ว 

• ผิวหน้าแพ้ง่าย โดยผิวหน้าแบบนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างต้องระวังมาก เพราะต้องหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดที่มีขั้นตอนที่เยอะมากเกินไป ดังนั้น แล้วผิวหน้าแบบนี้ขอแนะนำเป็นการหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ต้องหลีกเลี่ยงในเครื่องสําอาง และใช้ผลิตภัณฑ์แบบ ออแกนิก ที่ทำความสะอาดได้ดีในขั้นตอนเดียว ซึ่งอาจจะมีราคาที่สูง แต่ถือว่าคุ้มเพราะผิวหน้าจะไม่ช้ำ 

อย่างที่รู้กันดีว่า เรื่องเครื่องสำอาง หรือ การแต่งหน้า เป็นหัวใจหลักของทุกคนที่รักในการแต่งหน้า เพราะจะเป็นจุดที่เพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองได้เป็นอย่างดี แต่ก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยการล้าง หรือ เช็ดเครื่องสำอางให้ถูกวิธีด้วย ไม่เช่นนั้นแล้ว สิ่งสกปรกที่ล้างออกไม่หมดจะอุดตัน เกิดเป็นสิวได้ในที่สุด อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่าข้อมูลทั้งหมด จะรวบรวมให้ทุกคนได้เลือกใช้ทั้งคลีนซิ่ง อีกทั้งได้เรียนรู้เรื่องสำคัญของการเช็ดเครื่องสำอาง ที่เป็นเรื่องใหญ่มากกว่าที่คิด สุดท้ายนี้พวกเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้ความรู้ และ เรื่องราวของคลีนซิ่งที่มีหลายแบบ พร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกคน 

อ้างอิงจาก :

Cleansing 101 : เลือกคลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางยังไง ให้เหมาะกับผิวเรา (cosmenet.in.th) : https://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/37840

ขั้นตอนเช็ด “เครื่องสำอาง” แบบไร้สิวอุดตัน : https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/1536591