ครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว เป็นวิธีทาครีมที่ถูกต้องจริงหรือไม่? 

แดด ตัวการสำคัญที่ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวมากมาย โดยเฉพาะผิวหน้าของเราที่ต้องคอยระวังปัญหาจากแสงแดดมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำที่จะยิ่งเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นหากเราไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดให้ดี ไปจนถึงโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นได้จากแสงแดด หรือทำให้ผิวหน้าของเราดูแก่กว่าวัย หนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวของเราจากแสงแดดได้เป็นอย่างดีก็คือ ครีมกันแดด นั่นเอง เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนคงจะมีครีมกันแดดเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการบำรุงผิวหน้าในยามเช้า ว่าแต่การจะทาครีมกันแดดให้เกิดประโยชน์อย่างสูงที่สุด และการเลือกประเภทของครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวหน้าของเรานั้นมีความจำเป็นแค่ไหน และต้องทาครีมกันแดด ครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว เป็นวิธีทาครีมที่ถูกต้องจริงหรือไม่ แล้วเท่าไหร่ถึงจะปกป้องผิวได้อย่างดีที่สุด เราไปลองหาคำตอบกันเลย

ครีมกันแดด จำเป็นต้องทาทุกวันไหม?

การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอนั้นจำเป็นมาก ๆ ถือเป็นหนึ่งในวิธีบำรุงผิวขาว ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในที่ร่ม หรืออยู่ในบ้านก็ไม่ควรงดทาครีมกันแดด เพราะในแต่ละวันถึงแม้ว่าผิวของเราจะไม่ได้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง แต่ก็ยังมีรังสี UV จากแสงแดดที่เล็ดลอดมาสัมผัสผิวของเราได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวันหยุดนอนอยู่แต่ในบ้าน วันทำงานที่นั่งอยู่แต่ในออฟฟิศ วันไหน ๆ ก็ห้ามลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาด 

นอกจากรังสี UV แล้ว ครีมกันแดดยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการปกป้องผิวจากมลภาวะ ไม่ว่าจะฝุ่น หรือควัน ไปจนถึงแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกก์ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือแสงจากหลอดไฟ ดังนั้นแล้วจึงถือได้ว่าจำเป็นมาก ๆ ที่เราควรจะทาครีมกันแดดในทุก ๆ วันเพื่อปกป้องผิวของเราจากปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นได้จากแสงแดด

ครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว เป็นวิธีทาที่ถูกจริงหรือไม่?

เมื่อพูดถึงการทาครีมกันแดดแล้วนั้น เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างที่เขาบอกว่าเราควรจะทาครีมกันแดดปริมาณ 2 ข้อนิ้ว โดยเหตุผลนั้นก็คือเพื่อให้ผิวของเราได้รับปริมาณครีมกันแดดที่เพียงพอในการปกป้องผิวนั่นเอง โดยปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือนั้นก็จะพอดีกับการทาให้ครอบคลุมพื้นผิวทั่วใบหน้าของเราทั้งหมด 

หลายคนอาจเป็นกังวลว่าถ้าต้องทาเยอะขนาดนั้นอาจจะทำให้หน้าวอก หรือเป็นคราบได้ เคล็ดลับในการทาครีมกันแดดให้สม่ำเสมอไปกับผิวก็คือการแบ่งทาทีละ 1 ข้อนิ้ว โดยลงเป็นจุด ๆ ไป เช่นทาที่หน้าผากก่อนแล้วเกลี่ยให้สม่ำเสมอ จากนั้นอาจจะตามที่แก้มทีละข้างก่อนจะไปจบที่คาง พอครีมกันแดดชั้นแรกซึมเข้าสู้ผิวดีแล้วเราก็อาจจะทาซ้ำอีกรอบหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าผิวของเราได้รับการปกป้องจากครีมกันแดดอย่างทั่วถึงจริง ๆ ถ้าใครรู้สึกว่าแค่ 2 ข้อนิ้วไม่พอที่จะทาทั่วผิวหน้าก็สามารถเพิ่มปริมาณเข้าไปได้ตามความเหมาะสม 

โดยอย่าลืมว่าปริมาณ 2 ข้อนิ้วนั้นเป็นปริมาณที่มีการแนะนำให้ใช้อย่างกว้างขวางเท่านั้นเอง และนอกจากผิวหน้าแล้วอย่าลืมใบหู ลำคอทั้งด้านหน้า และด้านหลังด้วย เพิ่มปริมาณให้เหมาะสมกับผิวที่เราต้องการปกป้องจากแสงแดดเพื่อให้ครีมกันแดดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้แล้วใครที่ต้องเจอแดดจ้าตลอดวัน เช่นการทำงาน หรือเล่นกีฬากลางแจ้งก็ควรจะทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 1 หรือ 2 ชั่วโมง เพราะประสิทธิภาพของครีมกันแดดจะเสื่อมลงไปเมื่อเจอกับแสงแดดจ้าเป็นเวลานาน ดังนั้นแล้วจึงสรุปได้ว่าเราควรทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมคือ 2 ข้อนิ้วขึ้นไป และควรทาซ้ำหากต้องออกแดดเป็นเวลานานนั่นเอง

วิธีเลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ในปัจจุบันมีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น และมีการพัฒนาครีมกันแดดหลายรูปแบบออกมาเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม และตามความต้องการ มีทั้งครีมกันแดดที่ช่วยบำรุงผิวไปในตัว ครีมกันแดดที่ช่วยปรับสีผิว ครีมกันแดดที่ทำหน้าที่ปรับสภาพผิวเพื่อให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า ไม่ว่าจะอย่างไรเราสามารถแบ่งครีมกันแดดออกได้เป็น 3 ประเภทหลักนั่นก็คือ

1. ครีมกันแดดแบบดูดซับรังสี (Chemical Sunscreen)

เป็นครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติในการดูดซับรังสียูวี เพื่อไม่ให้ทะลุผ่านลงไปถึงชั้นผิวหนัง โดยส่วนมากแล้วจะมีลักษณะของเนื้อครีมที่บางเบา ซึมง่าย ไม่มีสี ไม่ทั้งคราบเขา เกลี่ยง่าย เมื่อทาลงบนผิวแล้วจะรู้สึกสบายผิวมากกว่าครีมกันแดดชนิดอื่น ทนน้ำทนเหงื่อ 

2. ครีมกันแดดแบบสะท้อนรังสี (Physical Sunscreen) 

เป็นครีมกันแดดที่ทำหน้าที่สะท้อน หรือกระจายรังสียูวีออกไปจากผิว หลายคงลงความเห็นว่าครีมกันแดดประเภทนี้ทาแล้วทำให้หน้าดูขาววอก เกลี่ยยาก ซึมยากให้ความรู้สึกเหมือนเป็นฟิล์มเคลือบอยู่บนผิวหน้า แต่ในขณะเดียวกันครีมกันแดดประเภทนี้ก็จะเป็นมิตรกับผู้ที่มีปัญหาผิวเช่น คนที่มีผิวมันง่าย และยังปลอดภัยกว่าในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ด้วย

3. ครีมกันแดดลูกผสม (Hybrid Sunscreen)

มีทั้งคุณสมบัติในการดูดซับและสะท้อนรังสียูวีได้ในตัวเดียว รวมข้อดีและข้อเสียของครีมกันแดดทั้งสองชนิดเอาไว้

เราสามารถเลือกใช้ครีมกันแดดได้ตามชนิดที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของเรา และเรายังเลือกใช้ครีมกันแดดหลายชนิดสลับกันไปตามแต่ละวันว่าเรามีแพลนที่จะทำอะไรบ้างในวันนั้น ๆ แต่ที่แน่ ๆ คือเราไม่ควรผสมครีมกันแดดหลาย ๆ ตัวเข้าด้วยกัน เพราะอาจจะทำให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดลดลงได้ 

ครีมกันแดด เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะผิวหน้าของเราที่ต้องเจอกับมลภาวะ และแสงแดดอยู่เป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากปัญหาผิวต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ราจึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน และควรทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมคือ 2 ข้อนิ้วมือ หรือมากกว่านั้นตามที่ผิวของแต่ละคนต้องการ อย่าลืมทาครีมกันแดดที่ลำคอ และใบหูของเราด้วย นอกจากนี้หลังจากออกแดดอย่าลืมบำรุงและฟื้นฟูผิวด้วย ครีมบำรุง มาส์กหน้า วิตามินกู้ผิวหมองคล้ำ หรือรับประทานอาหารเสริมที่มีประโยชน์ร่วมด้วย

อ้างอิง

• All About Sunscreen. https://www.skincancer.org/skin-cancer-prevention/sun-protection/sunscreen/
• กันแดดมีกี่แบบ เลือกใช้ยังไงให้เวิร์คกับแดดไทย!. https://www.jeban.com/topic/343150
• ทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว กับ 2 นิ้วมือ แบบไหนคือวิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง ?.  https://women.kapook.com/view252648.html