คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ กินยังไงให้ผิวกระจ่างใสไวทันตา
การมีผิวขาวสวยกระจ่างใสเป็นที่ปรารถนาของหลายคน รวมถึงการมีผิวสุขภาพดีและมีเลือดฝาดที่บ่งบอกถึงการดูแลตัวเองอย่างดี เมื่ออายุมากขึ้น การบำรุงผิวพรรณจึงต้องเน้นให้ถูกทิศทางและถูกต้อง วันนี้เราขอแนะนำคอลลาเจนผิวใส หรือที่เรียกอีกชื่อว่า คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซึมไวกว่าคอลลาเจนประเภทอื่น ๆ หลายเท่าตัว ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
โดยคอลลาเจนชนิดนี้ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณให้ผิวดูอิ่มน้ำ เด้งดึ๋งไร้ริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและข้อต่อ โดยสามารถพบได้ในแหล่งต่าง ๆ เช่น ปลา, เนื้อสัตว์, และพืชบางชนิด ซึ่งการเลือกบริโภคจากแหล่งที่เหมาะสมและถูกวิธี จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ เราจะมาแบ่งปันวิธีเสริมประสิทธิภาพด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ มาเรียนรู้และค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดในการดูแลผิวพรรณและสุขภาพของคุณไปพร้อมกันที่นี่ เริ่มกันเลย!
คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ ต่างจากชนิดอื่น ๆ อย่างไร?
หรือที่เราเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptides) ที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ ซึ่งใช้เอนไซม์ในการย่อยสลายโปรตีนขนาดใหญ่ให้กลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ขนาดโมเลกุลของคอลลาเจนชนอกนี้อยู่ที่ประมาณ 3–6 กิโลดาลตัน (kDa) ซึ่งเล็กกว่าชนิดทั่วไปที่มีขนาดโมเลกุลประมาณ 300 กิโลดาลตัน ทำให้สามารถดูดซึมได้ง่ายและรวดเร็ว การวิจัยพบว่าขนาดโมเลกุลเล็กกว่า 5 กิโลดาลตัน จะมีอัตราการดูดซึมสูงถึง 90% ภายใน 6 ชั่วโมงหลังการบริโภค
พบได้จากที่ไหนบ้าง
- วัว (Bovine): เป็นแหล่งที่มาที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากมีปริมาณคอลลาเจนสูง และสามารถสกัดได้ง่ายจากส่วนต่าง ๆ เช่น หนัง กระดูก และเอ็น มีคุณสมบัติที่ดี และมีการใช้ในอุตสาหกรรมเสริมความงามและอาหารเสริมอย่างแพร่หลาย
- หมู (Porcine): เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีเช่นเดียวกับประเภทอื่น ๆ และราคาไม่แพง จึงเป็นวัตถุดิบยอดนิยมไม่แพ้จากวัว ส่วนใหญ่จะสกัดจากบริเวณหนัง ซึ่งมีปริมาณสารอาหารสูงและสกัดได้ง่าย
- ปลา (Marine): ได้รับความนิยมสูง เพราะมีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ดูดซึมได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะจากเกล็ดและหนังปลา มีคุณสมบัติที่ดีในการเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว
- สัตว์อื่น ๆ: นอกจากนี้ยังสามารถสกัดได้จากแหล่งอื่น ๆ เช่น ไก่และสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมงกะพรุน
- สารอาหารเสริมจากไก่ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการเสริมสร้างกระดูกและข้อต่อ
- ส่วนแมงกะพรุนมีการใช้งานในการผลิตสำหรับการดูแลผิวพรรณ
คุณสมบัติที่ทำให้ดูดซึมได้ง่าย
- โมเลกุลที่เล็กที่สุด : เพียง 3–6 กิโลดาลตัน (kDa) ซึ่งเล็กกว่าคอลลาเจนทั่วไปที่มีขนาดโมเลกุลประมาณ 300 กิโลดาลตัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- สลายตัวด้วยเอนไซม์ : การไฮโดรไลซ์ทำให้เกิดการสลายตัวของโปรตีน โดยใช้เอนไซม์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น เอนไซม์เปปซินและเอนไซม์โคลลาเจเนส มีความบริสุทธิ์และประสิทธิภาพสูงกว่าคอลลาเจนที่สกัดด้วยกระบวนการทางเคมี ทำให้โมเลกุลถูกแปลงเป็นเปปไทด์ขนาดเล็กที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที
- ละลายน้ำได้ไวกว่า : นอกจากขนาดโมเลกุลที่เล็กและสบายตัวได้ง่าย จึงเป็นผลให้มีการละลายตัวในน้ำได้ไวกว่าประเภทอื่น ๆ ซึ่งทำให้สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มหรืออาหารได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้สามารถนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางได้หลากหลายยิ่งขึ้น
ประโยชน์ด้านผิวพรรณ
ลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่น
เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิว เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอย ทำให้สารอาหารเสริมนี้ มีบทบาทสำคัญในการลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว การบริโภคช่วยกระตุ้นการผลิตในชั้นผิว ทำให้ผิวหนังกลับมายืดหยุ่นและตึงกระชับอีกครั้ง งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการบริโภคประเภทไฮโดรไลซ์เป็นระยะเวลา 8-12 สัปดาห์ สามารถลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวได้อย่างมีนัยสำคัญ
เพิ่มความชุ่มชื้นและกระจ่างใสของผิว
นอกจาเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวเด้งแล้ว ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระจ่างใส โดยเป็นส่วนสำคัญในการรักษาระดับความชุ่มชื้นในผิวหนัง การบริโภคจะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูสดใสและมีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าเพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำของผิว ทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวลและดูขาวมากขึ้น
ป้องกันการเกิดสิวและการรักษารอยแผลเป็น
สิวและรอยแผลเป็นเกิดจากเซลล์ผิวที่ถูกทำลายและไม่ได้รับการฟื้นฟูที่รวดเร็วมากพอ ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน มีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันการเกิดสิวและการรักษารอยแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าไปสร้างเนื้อเยื่อใหม่และการซ่อมแซมเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รอยแผลเป็นจางลงและสิวหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและลดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและไร้สิว
วิธีกินอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน โดยปริมาณที่แนะนำคือ 5-10 กรัมหากต้องการเสริมความแข็งแรงของข้อต่อและกระดูก และปริมาณ 2.5-5 กรัมต่อวัน หากคุณต้องการบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใสไร้ริ้วรอย การวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการบริโภคในปริมาณดังกล่าวช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวขึ้นได้
เวลาและวิธีการ
การรับประทานคอลลาเจนประเภทนี้สามารถทำได้หลายวิธี แต่เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรรับประทานในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยส่วนใหญ่แนะนำให้รับประทานตอนเช้าหรือก่อนนอน เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายมีการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ นอกจากนี้ควรรับกินพร้อมกับวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
แหล่งอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถผสมได้
ด้วยคุณสมบัติที่ละลายน้ำได้ไวและดูดซึมอาหารได้ดี ทำให้สามารถนำไปผสมในอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลาย เช่น
- น้ำผลไม้: เช่น น้ำแอปเปิ้ล หรือสมูทตี้ เพื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหารและวิตามินซี ซึ่งคอลลาเจนผงช่วยในการดูดซึมอาหารและแร่ธาตุได้เป็นอย่างดี
- โยเกิร์ตและนม: การผสมลงอาหารเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เพิ่มคุณค่าทางอาหาร แต่ยังช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนและแคลเซียมเพิ่มขึ้น ส่งเสริมข้อต่อและกระดูกให้แข็งแรง
- อาหารต่าง ๆ: สามารถนำไปผสมในซุป น้ำซุป หรืออาหารอื่น ๆ ที่ต้องการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ โดยไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนไป
เคล็ดลับเพิ่มเติม
ดูแลจากภายใน
การดูแลผิวจากภายในเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง การบริโภคอาหารเสริมและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ช่วยเสริมสร้างผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิตามินซี: ช่วยในการผลิตคอลลาเจนและป้องกันการเกิดริ้วรอย ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 75-90 มิลลิกรัม
- วิตามินอี: ช่วยในการป้องกันผิวจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ปริมาณที่แนะนำคือ 15 มิลลิกรัมต่อวัน
- กรดไขมันโอเมก้า-3: มีในปลาแซลมอน, เมล็ดแฟลกซ์, และวอลนัท ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวและลดการอักเสบ
- ซิงค์: ช่วยในการรักษาสิวและเสริมสร้างการฟื้นฟูของผิว ปริมาณที่แนะนำคือ 8-11 มิลลิกรัมต่อวัน
เสริมผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
การบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิว จะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและคงความอ่อนเยาว์ ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ผิวต้องการและใช้เป็นประจำ จะช่วยป้องกันและรักษาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ครีมกันแดด: การใช้ครีมที่มี SPF 30 ขึ้นไปทุกวันช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และลดความเสี่ยงในการเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ
- มอยส์เจอไรเซอร์: การใช้ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันผิวแห้งขาดคอลลาเจน และแม้ว่าคุณผิวมันก็ห้ามละเลยเด็ดขาด แนะนำใช้ในรูปแบบเจลจะช่วยลดความเหนอะหนะได้ดี
- เซรั่มวิตามินซี: เซรั่มที่มีวิตามินซีควบคู่กับครีมกันแดดตอนเช้า ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ
- ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล: ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและลดริ้วรอย แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ หากคุณเพิ่งเริ่มใช้ ให้ใช้อาทิตย์ละสองครั้ง และทามอยส์เจอไรเซอร์ตามเยอะ ๆ เพื่อเพื่อกันการระคายเคือง
กิจวัตรที่ส่งเสริมสุขภาพ
พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันส่งผลต่อสุขภาพผิวอย่างมาก ด้วยการดูแลจากภายในและภายนอกพร้อมกันจะช่วยให้ผิวดูดีและสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
- ดื่มน้ำเพียงพอ: ร่างกายควรได้รับน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวและขับของเสียออกจากร่างกาย
- พักผ่อนอย่างเพียงพอ: ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว
- หมั่นออกกำลังกาย: เมื่อคุณฝึกฝนร่างกายเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูสดใส แก้มเปล่งปลั่มอมชมพู แนะนำว่าควรทำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
คอลลาเจนไฮโดรไลซ์เป็นสารอาหารเสริมที่มีประโยชน์อย่างมากต่อการดูแลผิวพรรณและสุขภาพโดยรวม ด้วยความสามารถในการดูดซึมที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแรงของข้อต่อและกระดูก นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี แต่อย่างไรก็ดี การดูแลผิวไม่ควรพึ่งพาครีมทาผิวภายนอกอย่างเดียว การมีพฤติกรรมรักษาสุขภาพด้วยการกินอาหารดีมีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการกินอาหารเสริมคอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กลไกร่างกายเชื่อมโยงและฟื้นฟูร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเริ่มบริโภคอย่างไร แนะนำปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการเพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อย
1. คอลลาเจนไฮโดรไลซ์คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?
หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptides) ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์เพื่อย่อยสลายโปรตีนขนาดใหญ่ให้กลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายและรวดเร็ว ประโยชน์หลักคือลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว ช่วยเสริมสร้างกระดูกและข้อต่อ และเร่งฟื้นฟูเซลล์ผิว
2. วิธีการบริโภคไฮโดรไลซ์คอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดคืออะไร?
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรบริโภคในปริมาณ 5-10 กรัมต่อวัน สำหรับการเสริมสร้างข้อต่อและกระดูก และ 2.5-5 กรัมต่อวัน สำหรับการเสริมสร้างผิวพรรณ ควรรับประทานในช่วงเช้าหรือก่อนนอน และกินร่วมกับวิตามินซีเพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึม
3. การใช้คอลลาเจนไประเภทนี้มีผลข้างเคียงหรือไม่?
แม้ว่าเราจะไม่ค่อยเห็นผู้บริโภคมีผลข้างเคียงมากนัก แต่การกินมากเกินไปในแต่ละวันอาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้, มีแก๊สในท้อง และท้องเสีย หรือหากคุณมีประวัติการแพ้ปลาหรือสัตว์ทะเล ควรหลีกเลี่ยงแหล่งที่มาจากปลา และหากคุณกำลังตั้งครรภ์, ให้นมบุตร, หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้
4. เราสามารถผสมกับอาหารและเครื่องดื่มได้หรือไม่?
ด้วยคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี ทำให้สามารถผสมลงในอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลาย เช่น น้ำผลไม้, โยเกิร์ต, นม, แกง หรือแม้แต่อาหารทั่วไป เช่น สลัด หรือข้าวโอ๊ต การผสมลงในอาหารและเครื่องดื่มไม่เพียงแค่เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังช่วยให้คุณสามารถบริโภคได้อย่างสะดวกสบายและต่อเนื่องในทุกๆ วัน
อ้างอิง
- Megan Nunn, PharmD, Benefits of Hydrolyzed Collagen and How to Use It, Verywell Health, December 05, 2023, https://www.verywellhealth.com/hydrolyzed-collagen-5082613.
- Hydrolyzed Collagen—Sources and Applications, NIH, November 07, 2019, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6891674/
- Is Hydrolyzed Collagen a Miracle Cure?, Healthline, October 01, 2020, https://www.healthline.com/health/food-nutrition/is-hydrolyzed-collagen-a-miracle-cure.
