ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่ว่าใครก็ต่างต้องการมีหุ่นสวยกันทั้งสิ้น จนทำให้หลาย ๆ คนมองหาวิธี ลดน้ำหนัก 7 วัน 10 กิโล หรือวิธีลดน้ำหนักที่ง่าย อย่างการกินยาลดน้ำหนัก ที่เห็นผลรวดเร็วมากที่สุด เพื่อต้องการมีหุ่นสวยได้อย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่า การลดน้ำหนักที่ดีจะต้องไม่ลดน้ำหนักแบบรวดเร็วหรือเร่งด่วนมากเกินไป ถึงแม้ว่าการลดน้ำหนักแบบรวดเร็วจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ก็จริง แต่จะเป็นการลดน้ำหนักในระยะสั้นเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปเรากลับมารับประทานอาหารในรูปแบบเดิม จะทำให้น้ำหนักกลับมาเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมได้ ดังนั้นหากใครต้องการลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด หรือต้องการลดน้ำหนักแบบถาวร ควรมองหาวิธีการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมั่นคง
การ ลดน้ำหนัก 7 วัน 10 กิโล ด้วยการงดรับประทานไขมัน จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การรับประทานไขมันจะมีทั้งไขมันดีและไขมันเลว แต่โดยส่วนใหญ่แล้วของอร่อยมันจะอยู่ในจำพวกไขมันเลว อย่างเช่น ขาหมู เนื้อหมู่ติดมัน หรือเนื้อวัวติดมัน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะถือเป็นอีกหนึ่งของโปรดใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ แต่หากเราต้องการลดน้ำหนักให้ได้มากที่สุด ควรเลือกรับประทานไขมันดี ที่จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้มากกว่าเดิม
เพราะไขมันดีจะเป็นตัวช่วยนำไขมันเลวให้ออกจากร่างกายได้อย่างง่ายดายมากขึ้น เพราะโดยปกติแล้วไขมันเลวจะไม่สามารถออกจากร่างกายเองได้ เมื่อไขมันเลวเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะถูกนำไปสะสมในร่างกายไปเรื่อย ๆ โดยส่วนใหญ่จะสะสมเอาไว้ที่ต้นขา หรือหน้าท้อง ส่งผลให้เราอ้วนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเราควรหันมา รับประทานไขมันดี ที่จะส่งผลดีต่อร่างกายเราได้มากที่สุด
โดยสิ่งแรกเราควรงดรับประทานไขมันเลวเสียก่อน หันมารับประทานผักผลไม้ให้มากกว่าเดิม รวมทั้งการเลือกรับประทานเนื้อปลาให้มากขึ้น เพื่อทดแทนการทานเนื้อสัตว์ติดมัน และเลือกรับประทานอาหารประเภทอบ ย่าง หรือต้มแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภททอดให้ได้มากที่สุด เพราะอาหารประเภททอดจะใช้น้ำมันในการทอดเยอะเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ร่างกายได้รับไขมันมากเกินต้องการ
ทั้งนี้ หากต้องใช้น้ำมันจริง ๆ ควรตวงน้ำมันด้วยช้อนชา หรือใช้น้ำมันสเปรย์ เพื่อช่วยควบคุมปริมาณการใช้งานได้มากขึ้นกว่าเดิม และควรเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันอิ่มตัว อย่างเช่น น้ำมันหมู เนย ครีม มาเป็นการใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันดีแทน อย่างเช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา น้ำมันดอกคำฝอย หรือน้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น รับรองได้เลยว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดความอ้วนได้ดีที่สุด
หากใครต้องการลดน้ำหนัก 10 กิโล หรือต้องการลดน้ำหนักภายใน 7 วัน ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในช่วงเช้าของตนเอง เพราะในช่วงเช้าจะเป็นช่วงที่เราสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกายได้มากที่สุด ดังนั้นในช่วงเวลานี้จะเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างแรก คือ ควรตื่นแต่เช้าเพื่อวางแผนในการใช้ชีวิตแต่ละวัน รวมทั้งการเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพรับประทานในช่วงเช้า และการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน
ซึ่งการออกกำลังกายอาจจะเป็นการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างเช่น การเดินเร็ว หรือวิ่งจ็อกกิ้ง เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดีที่สุด และยังช่วยปรับระบบการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้นมากกว่าเดิมได้อีกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายตอนเช้านั้น ควรออกกำลังกายก่อนรับประทานอาหารเช้า เพราะจะช่วยให้ร่างกายนำพลังงานมาใช้ได้ดีขึ้นกว่าเดิม
และเมื่อตื่นนอนเราควรดื่มน้ำในทันที เพื่อช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะในช่วงที่เรานอนหลับร่างกายของเราขาดน้ำเป็นจำนวนมาก เมื่อเราตื่นนอนแล้วควรดื่มน้ำก่อนเป็นอันดับแรก โดยไม่ต้องรอให้ร่างกายส่งสัญญาณกระหายน้ำ และการดื่มน้ำช่วงตื่นนอน ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เรางดรับประทานอาหารจุกจิก ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญยังช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำอีกด้วย เรียกได้ว่าการตื่นเช้าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมรับเช้าวันใหม่ได้ดีที่สุด
เชื่อว่าหากพูดถึงแคลอรีหลาย ๆ คนจะต้องไม่รู้ในด้านความหมายอย่างแน่นอน ซึ่งหากใครต้องการสูตรลดน้ำหนัก 7 วัน วิธีลดน้ำหนักแบบ IF หรือต้องการควบคุมน้ำหนัก จะต้องศึกษาข้อมูลในเรื่องของแคลอรีให้ดี ซึ่งแคลอรีจะเป็นหน่วยวัดพลังงาน โดยพลังงานที่ใช้ในร่างกายของเราจะเรียกชื่อเต็ม ๆ ว่า “กิโลแคลอรี” นั่นเอง โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะต้องการพลังงาน 25 กิโลแคลอรีต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ดังนั้นจะหมายความว่า หากเรามีน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม ร่างกายจะต้องการแคลอรีต่อวันประมาณ 1,500 กิโลแคลอรีนั่นเอง
แต่ยังมีบางข้อมูลที่บอกว่าร่างกายของเราจำเป็นต้องรับพลังงานแคลอรีกว่า 2,000-2,500 กิโลแคลอรีต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งสูตรการหากิโลแคลอรีตามน้ำหนักตัวของเรา จะเป็นเพียงพลังงานขั้นต่ำที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับเท่านั้น เพราะการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราจะมีการทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่างเช่น การเดิน การขึ้นลงบันได การวิ่ง การนั่งทำงาน หรือการออกกำลังกาย เป็นต้น ดังนั้นในส่วนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ร่างกายของเราจำเป็นต้องได้รับแคลอรีที่เยอะขึ้นกว่าเดิม โดยในหนึ่งวันควรรับประทานแคลอรีให้มากกว่า 2,000 กิโลแคลอรีเป็นอย่างต่ำ
โดยปกติแล้วความอ้วนจะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งในเรื่องของพฤติกรรมส่วนตัว พฤติกรรมการรับประทานอาหาร สังคมและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมทั้งในเรื่องของพันธุกรรมด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากเราต้องการลดความอ้วนโดยปกติแล้ว จะไม่ได้ใช้เป็นการลดน้ำหนักทางตรง แต่จะเป็นการลดไขมัน หรือเอาแคลอรีชุดใหม่เข้าร่างกายให้น้อยลง และเอาแคลอรีชุดเก่าออกจากร่างกายให้มากที่สุด ในส่วนวิธีการลดน้ำหนักของแต่ละบุคคลจะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป
บางคนอาจจะต้องการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ เลือกประเภทของอาหารที่เรารับประทาน รวมทั้งในเรื่องของการออกกำลังกายควบคู่กันออกไป ทั้งนี้หลาย ๆ คนต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นัก ส่งผลให้ทุกคนจำเป็นต้องมองหาวิธีการลดน้ำหนักอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ร่างกายเสียหาย และเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์นั่นเอง ทั้งนี้ความอ้วนในปัจจุบันยังมีสาเหตุมาจาก ปัจจัยภายนอกด้านอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น
หลายคนอาจจะมองว่าการลดความอ้วนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ จึงเลือกออกกำลังกายหนัก ๆ หรือออกกำลังกายแบบสุดโต่ง เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงาน และไขมันส่วนเกินออกมาได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าการออกกำลังกายในลักษณะนี้จะส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เนื่องจากการออกกำลังกายที่ดีจะต้องมีการวางแผนการออกกำลังกายให้เหมาะสม รวมทั้งการออกกำลังกายเพียงวันละ 1-2 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ร่างกายไม่ใช้งานหนักมากเกินไป
หากเราเลือกออกกำลังกายหนักกว่านั้น อาจจะทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้มากขึ้น เพราะเมื่อเราลดน้ำหนักจะไม่ใช่เพียงไขมันที่ลดลงไปเท่านั้น แต่จะเสียมวลกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน และการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อมักจะมาพร้อมกับอัตราการเผาผลาญที่ลดลง ส่งผลให้อัตราส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อไม่คงที่ อาจจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ง่าย และนอกจากนี้หากเราเลือกออกกำลังกายหนัก ๆ แต่ไม่รับประทานอาหารให้เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานแคลอรีที่ไม่เพียงพอหรือใช้พลังงานแคลอรีมากเกินไป ส่งผลให้ระดับพลังงานของเราลดลง ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่าย และประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายอาจจะลดลงได้เช่นเดียวกัน
ที่สำคัญจะส่งผลต่อการแสดงอารมณ์ได้อีกด้วย เพราะหากเราลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนด้วยการโหมออกกำลังกายอย่างหนัก จะทำให้อารมณ์ของเราฉุนเฉียวได้ง่าย ทั้งนี้ยังทำให้ร่างกายของเราขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่งผลกระทบทางตรงถึงสุขภาพ เพราะในปัจจุบันมีโรคที่เกี่ยวข้องกับการขาดสารอาหารอยู่มากมาย อย่างเช่น โรคโลหิตจาง ที่จะมีความรู้สึกอ่อนแรง หรือในบางครั้งอาจจะเป็นลมไปอย่างดื้อ ๆ เนื่องจากร่างกายของเราไม่ได้รับธาตุเหล็กมากเพียงพอ ดังนั้นการลดน้ำหนักอย่างเหมาะสม ไม่ควรอดอาหาร หรือออกกำลังกายแบบสุดโต่งเกินไป แต่ควรค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปไม่รีบร้อน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพได้ทัน
การลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง และเหมาะสม ไม่ว่าเราต้องการลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ตามจะสามารถทำได้ทั้งสิ้น เพียงแต่เราจำเป็นต้องใช้ ระยะเวลาในการลดน้ำหนักอาจจะเป็นปี หรือบางคนอาจจะ ลดน้ำหนักใช้เวลาไม่ถึงเดือน ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนด้วย หากบางคนต้องการลดเยอะ ๆ ก็จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการลดเยอะเช่นกัน อย่าไปเร่งรีบ ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีความอดทน และควบคุมการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง