การกิน ไฟเบอร์กับโพรไบโอติกส์ เป็นวิธีการที่สามารถช่วยให้ขับถ่ายได้ โดยหากจะพูดกันถึงเรื่องของการขับถ่าย ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อมนุษย์ทุกคนมาก ๆ เพราะการขับถ่ายคือการช่วยให้มนุษย์ได้ขับของเสีย และสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกไป โดยหากว่าไม่ได้มีการขับถ่ายก็อาจจะทำให้ส่งผลข้างเคียงหลาย ๆ อย่างตามมา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่การที่จะทำให้สามารถขับถ่ายได้ทุกวัน หรือขับถ่ายได้ดีนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเลย โดยเฉพาะคนที่มีอาการท้องผูกอยู่บ่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ก็ไม่จำเป็นเรื่องนี้อีกต่อไป เนื่องจากว่ามีตัวช่วยที่จะสามารถช่วยเรื่องของการขับถ่ายได้หลายวิธีเลย การกินไฟเบอร์กับโพรไบโอติกส์เองก็เป็นวิธีการที่ยอดนิยม มีให้ซื้อตามรีวิวไฟเบอร์ดีท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ซึ่งทั้งสองอย่างนี้แม้จะช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันอยู่ แล้วจะมีอะไรบ้างนั้น ในบทความนี้จะมาบอกให้เข้าใจกันในเรื่องขอไฟเบอร์กับโพรไบโอติกส์ คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร,ประโยชน์ของไฟเบอร์และโพรไบโอติกส์มีอะไรบ้าง,ควรกินไฟเบอร์และโพรไบโอติกส์ตอนไหนถึงจะให้ผลดีที่สุด และแชร์วิธีการเลือกซื้อไฟเบอร์และโพรไบโอติกส์
ไฟเบอร์ (Fiber) เป็นเส้นใยอาหารที่มักจะอยู่ในอาหารจำพวกผลไม้ ธัญพืช และผัก โดยไฟเบอร์ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ๆ เพราะสามารถช่วยได้ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ไฟเบอร์เป็นสิ่งที่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถที่จะทำการย่อยสลาย แต่จะสามารถขับออกมาในรูปแบบของกากอาหารแทนได้
สำหรับประเภทไฟเบอร์มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ก็คือ ไฟเบอร์ที่ละลายได้ในน้ำ และไฟเบอร์ที่ละลายไม่ได้ในน้ำ สำหรับไฟเบอร์ที่สามารถละลายได้ในน้ำก็จะเป็นเส้นใยอาหารที่สามารถดูดซึมน้ำเอาไว้ได้ ทำหน้าที่ในการดูดซับน้ำมันและน้ำตาลให้ร่างกายมีการดูดซึมไปใช้ได้ช้าลง ส่วนไฟเบอร์ที่ละลายไม่ได้ในน้ำ เป็นเส้นใยอาหารที่พองตัวได้คล้ายกับฟองน้ำ ซึ่งช่วยในเรื่องของการเพิ่มใยอาหาร และเพิ่มปริมาณน้ำที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ทำหน้าที่ในการทำความสะอาดทางเดินอาหาร
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็ก โดยโพรไบโอติกส์จะสามารถพบได้ในระบบทางเดินอาหาร และในอาหารที่เป็นประเภทอาหารหมักดอง เช่น นมเปรี้ยว, โยเกิร์ต หรือกิมจิ ซึ่งโพรไบโอติกส์จะทำหน้าที่ในการช่วยรักษาสมดุลให้กับลำไส้ เพื่อให้ลำไส้สามารถทำงานได้อย่างปกติ นอกจากนั้นโพรไบโอติกส์ยังทำหน้าที่ในการช่วยดูดซึมอาหาร และช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างร่างกายให้มีความแข็งแรงด้วย
สำหรับไฟเบอร์กับโพรไบโอติกส์นั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่ โดยความแตกต่างของทั้งสองอย่างนี้ก็คือ ไฟเบอร์จะเป็นเส้นใยอาหารที่พบได้ในผลไม้ ธัญพืช และผัก อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยได้แต่จะถูกขับออกมาเป็นกากอาหารแทน ส่วนโพรไบโอติกส์จะเป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่มีอยู่ในร่างกาย และพบได้ในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงอาหารหมักดอง ซึ่งแม้ทั้งสองจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ก็คือ การที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ไฟเบอร์เป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่สามารถที่จะคัดแยก หรือว่าแยกออกมาจากของเสียและของดีที่อยู่ในลำไส้ได้ จากสิ่งนี้เองที่ทำให้การกินโพรไบโอติกส์ดีกับเรื่องของระบบลำไส้มากกว่า และเป็นการช่วยให้มีระบบลำไส้ที่ดีแบบยั่งยืนมากกว่าด้วย
จากที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ก็คงจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เข้าใจกันได้มากขึ้นแล้วว่า ไฟเบอร์และโพรไบโอติกส์ คืออะไร แล้วมีความแตกต่างกันอย่างไร แน่นอนว่าผู้คนก็อาจจะมีข้อสงสัยกันต่อว่าจริง ๆ แล้วพรีไบโอติก ไฟเบอร์ ดีไหม หรือว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ในส่วนนี้จึงมาช่วยบอกถึงประโยชน์ของไฟเบอร์และโพรไบโอติกส์ให้ได้เข้าใจกัน ซึ่งมีดังต่อไปนี้
ในส่วนต่อมาที่อยากจะให้ได้ทำความเข้าใจกันด้วยก็คือ การกินโพรไบโอติก กับ ไฟเบอร์นั้นควรจะกินตอนไหนถึงจะดีมากที่สุด แล้วใครบ้างที่เหมาะสมที่จะกิน โดยเริ่มกันที่ไฟเบอร์ เป็นสิ่งที่สามารถกินได้ทุกวัน และสามารถกินได้ทุกช่วงเวลา แต่หากจะให้แนะนำช่วงเวลาที่กินแล้วเหมาะสมมากที่สุดในการกินไฟเบอร์ ก็จะเป็นการกินในช่วงก่อนนอน
การกินไฟเบอร์ก่อนนอนเป็นช่วงที่สามารถช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้มากเป็นพิเศษ และหลังจากที่กินไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถเห็นผลได้หลังจากนั้นเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง ซึ่งก็คือช่วงเช้าในเวลา 05.00-07.00 น. นั่นเอง เป็นช่วงเวลาที่ลำไส้ใหญ่จะมีการขับกากอาหารออกมาจากร่างกายได้ดีมากที่สุด โดยการกินไฟเบอร์เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อย ถ่ายยาก หรือว่ามักจะถ่ายไม่ตรงเวลา นอกจากนั้นก็ยังเหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบกินผักหรือผลไม้ รวมถึงยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการจะดีท็อกซ์ลำไส้ และอยากที่จะทำความสะอาดทางเดินอาหาร
มาถึงในส่วนของการกินโพรไบโอติกส์กันบ้าง เป็นสิ่งที่ควรกินก่อนมื้ออาหาร หรือจะกินระหว่างมื้ออาหารก็ได้เช่นกัน โดยการที่จะต้องกินเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้โพรไบโอติกส์โดนน้ำย่อยทำลาย หรือโดนยาบางชนิดทำลายได้ เนื่องจากว่าช่วงก่อนการกินอาหารกระเพาะจะมีความเป็นกรดต่ำ ทำให้โอกาสที่โพรไบโอติกส์จะถูกทำลายจากน้ำย่อยนั้นน้อยลง นอกจากนี้ยังควรกินโพรไบโอติกส์กับน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องปกติ ซึ่งเป็นการช่วยให้สามารถดึงประสิทธิภาพของโพรไบโอติกส์ออกมาใช้ได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโพรไบโอติก กับ ไฟเบอร์กันมากขึ้นแล้ว ในส่วนต่อมาก็อยากจะให้ทำความเข้าใจ และให้ความสำคัญกันด้วย นั่นก็คือ เรื่องของวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมโพรไบโอติกส์ และการเลือกซื้ออาหารเสริมไฟเบอร์ที่ควรจะเลือกอย่างไรบ้าง ซึ่งการเลือกซื้อทำได้ไม่ยากเลย สามารถทำได้ดังนี้
สำหรับทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เข้าใจกันได้มากขึ้นแล้วว่า โพรไบโอติกส์และไฟเบอร์คืออะไร แล้วมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังช่วยให้ได้ทราบถึงประโยชน์ และวิธีการกิน รวมถึงวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมไฟเบอร์และโพรไบโอติกส์ด้วยนั่นเอง
อ้างอิง
ไฟเบอร์ กับ โพรไบโอติกส์ ต่างกันยังไง กินอะไรดีช่วยขับถ่าย – ทุกเรื่องโปรโมชั่น ที่อัพเดทที่สุด (promotions.co.th). https://promotions.co.th/บทความ/difference-between-fiber-and-probiotics.htmll.